น้ำรอการระบาย

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ น้ำรอการระบาย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ น้ำรอการระบาย แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัยในช่วงฝนตก


     วันนี้ทีมงานของ โตโยต้า กรุงไทย มีเกร็ดความรู้ในการใช้รถช่วงฝนตกจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษโดยเฉพาะฝนตกซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ถนนลื่นและเกิดอุบัติเหตุในที่สุด แน่นอนครับว่านั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ระยะในการหยุดรถยาวกว่าปกติ รวมไปถึงวิสัยทัศน์ในการมองเห็นที่ยากลำบาก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งก็จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วย แต่อย่างไรก็ตามทางทีมงานก็มีวิธีปฏิบัติและเทคนิคการขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัยมาฝากลองทำตามดูนะครับ รับประกันเลยว่ามีความปลอดภัยแน่นอนครับ

1.มั่นตรวจสอบความพร้อมของรถ เช่น ระบบไฟส่องสว่าง ไฟเลี้ยว ไฟเบรก สภาพยางปาดน้ำฝน ระบบน้ำฉีดกระจก สภาพยาง และแรงดันยาง...เพราะถ้ายางอ่อน จะทำให้รถยนต์มีอาการลื่นได้ง่าย

2.เมื่อฝนตกหนัก ควรเปิดไฟหน้ารถและไฟตัดหมอก และที่สำคัญเลยไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินนะครับ

3.ขับรถยนต์ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะใน 5 นาทีแรกที่ฝนตก เพราะนั่นคือสาเหตุถนนจะลื่นได้ง่ายกว่าปกติ

4.ควรขับรถยนต์แบบทิ้งระยะห่างจากรถข้างหน้า ให้มากกว่าปกติ 2 เท่าเพื่อความปลอดภัยในระยะช่วงที่ฝนตก

5.หลีกเลี่ยงการเบรกอย่างกะทันหัน หรือ การเบรกโดยไม่จำเป็น

6.ลดความเร็วเมื่อมีการขับผ่านแอ่งน้ำ เพื่อป้องกันอาการรถยนต์เหินน้ำนั่นเอง

7.ในกรณีน้ำท่วมขัง ให้ท่านผู้ขับขี่รถยนต์ประเมินความลึกของน้ำจากรถคัดหน้าและขอบฟุตบาท

8.ในขณะที่ขับลุยน้ำที่ท่วมขัง อยู่นั้น ควรปิดระบบแอร์ของรถยนต์และใช้เกียร์ต่ำ ซึ่งเป็น เกียร์ L หรือ เกียร์ 1 เพื่อไม่ให้รอบเครื่องยนต์ต่ำ ป้องกันน้ำไหลย้อนเข้าท่อไอเสียนั่นเอง

9.หลังจากผ่านจุดน้ำท่วมขัง ควรเหยียบเบรกย้ำบ่อยๆ เพื่อรีดน้ำให้ผ้าเบรกแห้ง ป้องกันอาการเบรกลื่น แต่ถ้าต้องจอดรถ ไม่ควรใส่เบรกมือเพราะจะทำให้เกิดอาการเบรกติด

10.หากฝนตกหนักมาก ไม่สามารถมองเห็นทางได้ในระยะ 10 เมตร ควรหาที่ปลอดภัยจอดรถ รอให้ฝนเบาบางแล้วค่อยเดินทางต่อ

     เอาแหละครับ ทางทีมงาน โตโยต้า กรุงไทย  ก็หวังว่าถ้าหากต้องเจออาการเหล่านี้ ท่านผู้รักรถยนต์และท่านผู้ขับขี่รถยนต์ทั้งหลายสามารถควบคุมเองได้ไม่ยากเลย ซึ่งอย่างน้อยๆ การขับขี่รถในช่วงฝนตก จึงจำเป็นต้องเคร่งครัดให้มากที่สุด เพื่อความปลอดภัยกับคนที่คุณรักและตัวคุณเอง เพราะถึงแม้บางครั้ง อาจจะไปถึงบ้านช้า แต่ถ้าถึงแบบปลอดภัยครับ

21 จุดที่เสี่ยงรถดับตอนฝนตกมากที่สุดใน กรุงเทพมหานคร





     การใช้รถยนต์ในช่วงเวลาที่ฝนตกหรือชั่วโมงเร่งรีบ โดยปกติแล้วถ้ามาอากาศที่เปลี่ยนไปอย่างฝนตกซ้ำมาบวกกับรถที่ติดกันเป็นชั่วโมง ๆ ด้วยล่ะก็อาจทำให้ท่านต้องเสียสุขภาพจิตได้และในชั่วโมงที่มีถนนที่มีรถติดที่สุดเมื่อมีฝนตกลงมา ซึ่งหากใครที่ผ่านเส้นทางนั้นจะได้หลีกเลี่ยงได้ เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ฝนตกก็แทบจะทุกวันหากใครที่หลีกเลี่ยงเส้นทางเหล่านี้ได้ก็ให้เลือกทันทีครับ แต่รถไม่ติดยังดีกว่านะครับ ทางทีมงานก็มี 21 จุดใน กรุงเทพมหานคร ที่อาจได้รับการระบุว่าหากเกิดฝนตกลงมาเมื่อไหร่จุดเหล่านี้ก็จะกลายเป็นจุดรถติดและวิกฤตมากและเพื่อประหยัดเวลา รวมถึงน้ำมัน ซึ่งเราควรจะเลี่ยงทันที โดยที่ โตโยต้า รามอินทรา มีที่ต่างๆที่รถน่าจะติดและเป็นจุดเสี่ยงดังนี้


1.บริเวณ ถนนรัชดาภิเษก ช่วงหน้าห้างโรบินสัน

2.บริเวณ ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ตรงแยกห้วยขวาง แยกหน้าสำนักงานเขตห้วยขวาง

3.บริเวณ ถนนศรีอยุธยา ตรงหน้าวังสวนผักกาด

4.บริเวณ ถนนประชาสุข แยกประชาสุข-แยกห้วยขวาง

5.บริเวณ หน้าโรงเรียนพิบูลประชาสรรค์ แยกด่วนดินแดง (คู่ขนาน)

6.บริเวณหน้า สน.พญาไท-แยกศรีอยุธยา

7.บริเวณ ถนนรามคำแหง ช่วงขาออก-ขาเข้ารามคำแหง ตรงซอย 21-26 ช่องทางด้านซ้าย

8.บริเวณ ถนนรามคำแหง ซอย 24

9.บริเวณ ถนนรามคำแหง ซอย 26

10.บริเวณ ถนนรัชดาภิเษก ขาออก หน้าสถานทูตจีน

11.บริเวณ ถนนเพชรบุรีขาเข้า แยกเป๊ปซี่-ถนนอโศกเพชรบุรี

12.บริเวณ แยกอโศก-แยกอโศกเพชรบุรี

13.บริเวณ แยกโบสถ์แม่พระ-แยกพระราม 9 (ช่องทางซ้าย)

14.บริเวณ ถนนวิภาวดีรังสิต ขาออกหน้า ร.1 รอ.- สโมสรทหารบก

15.บริเวณ หน้า NBT- ใต้ทางด่วนดินแดง

16.บริเวณ ถนนอโศก ช่วงทางลัดตรงซอย 31 ,33 และ 39

17.บริเวณ ถนนพหลโยธิน ช่วงขาออก ก่อนถึงแยกเกษตร (ช่องทางซ้าย)

18.บริเวณ ถนนนครชัยศรี ตรงหน้ากรมสรรพสามิต

19.บริเวณ ถนนรัชดาภิเษก หน้าห้างสรรพสินค้าฟอร์จูน ตรงขาเข้า - แยกพระราม 9

20.บริเวณ ถนนพัฒนาการ ช่วงซอย 9- ซอย 17

            21.บริเวณ ถนนพัฒนาการ ซอย 13, ซอย 15 , ซอย 17 บริเวณตรงข้าม บริษัททรู


     เป็นอย่างไรบ้างครับ 21 จุด ที่เสี่ยงรถดับตอนฝนตกมากที่สุดในกรุงเทพมหานครในช่วงเวลาที่เลิกงานหรือช่วงเวลาที่เร่งด่วนครับ ซึ่งจุดที่นำมาบอกกันเพื่อท่านไหนสามารถหาเส้นทางที่ใกล้เคียงเพื่อลดการรถติดรถเสียในช่วงนั้นได้ ก็ลองดูครับ แต่ถ้าหากรถของท่านเกิดอาการรถเสียในช่วงนั้นมาแล้ว ทางทีมงานอยากจะแนะนำว่าให้ท่านผู้รักรถยนต์นำรถยนต์ของท่านเข้า ศูนย์บริการและอะไหล่ ที่ใกล้บ้านท่านที่สุดครับ