บำรุงรักษารถ

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บำรุงรักษารถ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บำรุงรักษารถ แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

เรื่องที่ควรรู้สำหรับผู้ใช้รถกระบะ


     ต้องยอมรับว่ารถกระบะเป็นประเภทรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทยของเรานะครับ ไม่เพียงเพื่อใช้งานทางด้านพาณิชย์ หรือบรรทุกสิ่งของเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทุกวันนี้รถกระบะยังเป็นรถยนต์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายกิจกรรม เนื่องด้วยรูปลักษณ์การออกแบบทั้งภายใน-ภายนอก และห้องโดยสารที่มีความสะดวกสะบายต่อผู้ใช้งาน พร้อมด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่ตอบสนองกับความต้องการได้หลากหลายรูปแบบการใช้งาน ซึ่งการใช้งานของรถกระบะนั้นอาจจะแตกต่างกันไปตามจุดประสงค์ของแต่ละคน

     ดังนั้นแล้วเพื่อยืดอายุการใช้งานของรถกระบะนั้น วิธีการบำรุงรักษาหรือตรวจเช็คสภาพของรถกระบะอย่างสม่ำเสมอนั้นจะเป็นสิ่งที่ทำให้รถของท่านมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และวันนี้เราโตโยต้า กรุงไทย ก็มีวิธีง่ายๆที่จะมาแนะนำ เพื่อให้มีอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น ส่วนจะมีอะไรกันบ้างนั้นเราไปดูกันเลยครับ

1.  หมั่นตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง
       การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง ถือว่าเป็นสิ่งแรกที่ทุกท่านผู้ใช้รถกระบะจำเป็นต้องตรวจก่อนเลยหลังจากการใช้งาน เพราะระดับน้ำมันเครื่องสามารถบ่งบอกได้ว่ารถของท่านควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแล้วหรือยัง ซึ่งวิธีการตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องในรถกระบะของท่านนั้นก็เป็นเรื่องง่ายๆ เลยก็คือ ท่านต้องเตรียมทิชชู่เพื่อเอาไว้เช็ดคราบน้ำมันจากก้านวัดก่อน วิธีปฏิบัติคือ ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องซึ่งจะอยู่บริเวณใกล้กับฝาที่ใส่น้ำมันเครื่อง ให้ท่านทำการเช็ดคราบน้ำมันจากก้านก่อนรอบแรก แล้วเสียบกลับที่เดดิมอีกครั้ง แล้วดึงก้านออกมาดู แล้วให้สังเกตุว่าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระดับไหน ซึ่งก้านวัดจะมีระดับขีดบอกอยู่ คือ max-min หรือขีดล่าง L (Min) ขีดบน F (Max) ถ้าหากระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่างทั้งสองขีดนี้แสดงว่าปกติ และหากปริมาณน้ำมันเครื่องสีดำมาก และอยู่ต่ำกว่าขีด L หรือสูงกว่าขีด F มากเกินไป อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้  และควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆระยะ 5,000-10,000 กิโลเมตร หรือตามรถยนต์แต่ละรุ่นที่กำหนดไว้ในคู่มือรถ และขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งานด้วย

2.  เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ
       สำหรับข้อนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่ท่านได้ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง (จากข้อ1) ให้พิจารณาว่าสมควรที่จะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง โดยให้สังเกตจากสีของน้ำมันเครื่องว่าในขณะนั้นเป็นสีดำมากน้อยแค่ไหน (วิธีเช็คจากข้อ 1) และโดยทั่วไปแล้วระยะของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่นั้นจะอยู่ที่  5,000-10,000 กิโลเมตร โดยประมาณ ซึ่งการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องนั้น ถือได้ว่าเป็นเรื่องของการช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ของท่านได้เป็นอย่างดีเลยครับ

3. น้ำยาหล่อเย็น
       น้ำยาหล่อเย็น หรือน้ำยาคูลแลนท์ (Coolant) ที่เหมาะสมต้องออกสีเขียวและปริมาณของน้ำยาต้องอยู่ในระดับกลางๆ ซึ่งต้องไม่อยู่ในระดับต่ำ (Low) ในถังบรรจุน้ำยาหล่อเย็นเกินไป และสีของน้ำยาต้องไม่ออกเป็นสีดำจนเกินไป ซึ่งถ้าตัวน้ำยาหล่อเย็นสีเขียวๆกลายเป็นสีดำเมื่อไหร่ แนะนำให้ท่านนำรถของท่านเข้าที่ศูนย์บริการฯใกล้บ้านท่าน เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็คอย่างระเอียด เพราะศูนย์บริการมีเครื่องมือที่เป็นมาตรฐานและทันสมัย เพื่อป้องกันและเป็นการถนอมการใช้งานของระบบความเย็นของเครื่องเย็นให้มีอายุการใช้งานให้ยาวนานต่อไป

4. การสลับยางรถยนต์ตามระยะ
       ทำไมถึงต้องสลับยางรถยนต์ตามระยะ ?.. เพราะบางท่านใช้งานรถกระบะก็จะแตกต่างกัน และโดยธรรมชาติแล้ว ยางที่อยู่ล้อหน้านั้นมีโอกาสที่จะสึกหรอก่อนมากกว่ายางหลัง เพราะมาจากการเบรกของรถกระบะส่วนใหญ่ที่มีระบบเบรกอยู่ล้อหน้าเป็นหลักนั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและการขับขี่ของแต่ล่ะท่านด้วยน่ะครับ ดังนั้นแล้วเพื่อเป็นการถนอมยางให้มีอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น เราควรสลับยางรถยนต์ตามระยะการใช้งาน อย่างเช่น รถของท่านเปลี่ยนยางใหม่ ซ่งมีการใช้งานไปประมาณ 10,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 6 เดือน ท่านก็ควรนำรถของท่านเข้ารับการบริการที่ศูนย์บริการหรืออู่บริการ ใกล้บ้าน

5. พื้นปูกระบะลายเนอร์
       ปกติแล้วพื้นปูกระบะลายเนอร์ เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามไป ซึ่งแน่นอนส่วนใหญ่รถกระบะก็จะมีพื้นปูกระบะทุกคันอยู่แล้ว และหลายคนก็มองข้ามในเรื่องการดูแลรักษาไปด้วยเช่นกัน เราควรมีการถอดพื้นปูกระบะลายเนอร์ออกมา เพื่อทำความสะอาดตัวกระบะของเราอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เนื่องจากพื้นปูกระบะลายเนอร์นี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ กระบะเราเกิดสนิมได้ เพราะใต้พื้นกระบะลายเนอร์ ไม่ได้รับแสงแดด และมีสิ่งปฎิกูลต่างๆหมักหมมเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความชื้นสะสมอยู่เป็นเวลานาน เป็นสาเหตุของการเกิดสนิมกัดกร่อนตัวกระบะเรา เป็นภัยเงียบที่เราไม่ควรมองข้ามนะครับ

ขอขอบคุณบทความ เรื่องที่ควรรู้สำหรับผู้ใช้รถกระบะ จากสาระความรู้ โตโยต้า กรุงไทย

วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ระบบ A-TRC ในรถโตโยต้า คือ...


     ระบบ A-TRC คือ ระบบป้องกันล้อ หมุนฟรีแบบแอคทีฟ ซึ่งระบบถูกพัฒนาเพื่อรองรับการขับในสไตล์ออฟโรดหรือเส้นทางวิบาก โดยการทำงานของระบบนี้ก็คือ เซ็นเซอร์ล้อรถทั้ง 4 ด้านจะตรวจจับการหมุนของทุกล้อ หากพบว่าล้อใดเริ่มสูญเสียแรงขับ เคลื่อนและจะหมุนฟรี ระบบจะส่งแรงเบรกไปสู่ล้อนั้นอย่างฉับไว และกระจาย กำลังของเครื่องยนต์ไปสู่ล้อที่เหลือ เพื่อให้รถมีแรงบิดเต็มกำลัง เท่ากับว่าผู้ขับ จะสามารถใช้กำลังเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา โดยปราศจากการสูญเปล่าจากอาการล้อหมุนฟรี นั่นเอง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : โตโยต้า รามอินทรา ระบบ A-TRC

วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

6 สาเหตุที่ยางรถยนต์เสื่อมไว


1.การเติมลมยางไม่พอดี
สาเหตุนี้หลายท่านที่ใช้รถยนต์ส่วนใหญ่มักจะเป็นครับ คือการที่เห็นลักษณะของยางจากภายนอกแล้วว่า ยางอ่อนบ้าง จึงทำการเติมลมยางเพิ่มเข้าไปเกินกำหนดบ้าง ซึ่งการเติมลมยางรถยนต์ที่ดีแล้ว ต้องเติมตามคำแนะนำที่ติดไว้ข้างประตูฝั่งคนขับน่ะครับ ถึงจะดีที่สุด แต่ในกรณีที่เปลี่ยนขนาดของล้อรถและเปลี่ยนยางรถยนต์ด้วยแล้ว ควรทำตามร้านรถยนต์ที่ได้แนะนำไว้ดีกว่าครับ เพราะการเติมลมยางรถยนต์ที่ดีนั้นท่านก็จะได้ความปลอดภัยในระหว่างการขับขี่มาด้วยครับ

2.ไม่ควรบรรทุกนํ้าหนักมากจนเกินไป
            สาเหตุนี้ส่วนมากมักจะเกิดขึ้นกับรถกระบะครับ คือการบรรทุกในน้ำหนักเกินซึ่งจะพบได้ในรถกระบะตอนเดียว ซึ่งการบรรทุกแบบนี้มากจนเกินไปทำให้การขับขี่ไม่ปลอดภัยและยังจะเพิ่มโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการขับขี่บนท้องถนนได้ด้วยครับ

3.หลีกเลี่ยงการเบรกและออกตัวอย่างรุนแรง
            สำหรับการขับขี่ที่ออกตัวรุนแรงและการเบรกกระทันหัน คือ สาเหตุที่ทำให้ยางรถยนต์ของท่านอาจเกิดการระเบิดในระหว่างการขับขี่ได้ครับ และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ดอกยางรถยนต์ของท่านเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่อายุการใช้งานที่กำหนดด้วยแน่

4.ไม่ควรขับขี่ด้วยความเร็วสูง
            ในส่วนของการขับขี่ด้วยความเร็วสูงจะเป็นอีก 1 ในสาเหตุของยางรถยนต์เสื่อมสภาพไว้กว่ากำหนดแล้วยังเป็นอีก 1 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอีกด้วยครับ หลายท่านอาจจะพบเหตุถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ง่ายๆ เลยก็คือ เวลารถยนต์เลี้ยงเข้าโค้งครับ สาเหตุก็มาจากแก้มยางด้านข้างของรถยนต์ที่แข็งเกินไปไม่สามารถสัมผัสพื้นถนนได้เต็มที่ ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายและยังเป็นสาเหตุที่ยางรถยนต์ของท่านเสื่อมอายุการใช้งานได้เร็วกว่ากำหนดครับ

5.หลีกเลี่ยงการขับขี่บนถนนที่ขรุขระให้น้อยที่สุด
            สำหรับข้อนี้คงจะบอกยางว่าจะไม่ให้เกิดเลยแต่ยังไงก็ตาม ท่านผู้ขับขี่ก็ต้องเจออยู่แล้ว ทางที่ดีท่านผู้ขับขี่ก็ต้องขับขี่บนท้องถนนที่ขรุขระอย่างระมัดระวังเพื่อถนอมอายุการใช้งานของยางรถยนต์ของท่านไว้ให้นานที่สุดครับ

6.การตั้งระบบศูนย์ล้อที่ไม่ตรงกับขนาดของล้อรถยนต์
            ในส่วนของข้อนี้มักจะพบได้จากรถยนต์ที่ทำการดัดแปลงมาครับ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดทั่วไปก็พวกรถกระบะ รถตระกูลพวก SUV รถพวกนี้มักจะดัดแปลงตามแฟชั่นการแต่งรถครับ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าท่านทำการดัดแปลงแล้วก็ควรที่จะตั้งศูนย์ล้อให้ตรงกับขนาดของล้อที่ท่านได้ทำการดัดแปลงมาด้วยครับ เพื่อความปลอดภัยของรถยนต์ที่ท่านได้ทำการขับขี่ครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณบทความดีๆจาก : โตโยต้า รามอินทรา
--------------------------------------------------------------------------------------------------- 

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

อาการสตาร์ทรถยนต์ไม่ติดต้องทำอย่างไรดี ?


     1.ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม
อาการนี้ให้ท่านเดาไว้ก่อนเลยครับคือ เมื่อท่านทำการสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วไม่ติด แต่พอท่านให้ช่างมาทำการพ่วงแบตจากรถคันอื่นแล้วดันสตาร์ทติดนั่นแหละครับแบตเสื่อมก็เป็นได้ ดังนั้นแล้วท่านลองแก้ปัญหานี้เบื้องต้นด้วยการเปลี่ยนแบตรถยนต์ของท่านแล้วค่อยดูอาการอีกทีครับอาการนี้ให้ท่านเดาไว้ก่อนเลยครับคือ เมื่อท่านทำการสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วไม่ติด แต่พอท่านให้ช่างมาทำการพ่วงแบตจากรถคันอื่นแล้วดันสตาร์ทติดนั่นแหละครับแบตเสื่อมก็เป็นได้ ดังนั้นแล้วท่านลองแก้ปัญหานี้เบื้องต้นด้วยการเปลี่ยนแบตรถยนต์ของท่านแล้วค่อยดูอาการอีกทีครับ

     2.ไดชาร์จมีปัญหา
อาการนี้ให้ท่านสันนิษฐานไว้เบื้องต้นเลยครับว่า ขับๆรถอยู่แล้วรถดันเกิดอาการดับลงกลางทางแล้วหน้าปัดเรือนไมค์มีรูปแบตเตอร์รี่โชว์เป็นไอคอนสีแดงขึ้นมานั่นแหละครับ ไดชาร์จ มีปัญหาแน่นอนครับท่านควรหา ศูนย์บริการและอะไหล่ ที่ใกล้บ้านท่านหรือไม่ก็ ช่างผู้ชำนาญการ ให้เข้าทำการแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ

     3.มอเตอร์รถยนต์อาจสตาร์ทมีปัญหาก็ได้
สำหรับอาการมอเตอร์มีปัญหานั้นเรื่องนี้เป็นที่ท่านไม่สามารถแก้ไขได้เบื้องต้นอย่างแน่นอนครับ เพราะสาเหตุที่แท้จริงเกิดจาก ฟิวส์มอเตอร์สตาร์ท ขาด หรือ สายไฟที่ต่อไปยังมอเตอร์สตาร์ทขาดหรือไม่ก็หลุดออกจากจุดต่อต่าง หรือ ตัวมอเตอร์สตาร์ทเองมีปัญหา ซึ่งต่อให้ท่านพ่วงแบตก็แล้วยังใช้การไม่ได้อีกนั่นแหละครับมอเตอร์มีปัญหาอย่างแน่นอนครับทางเดียวที่แก้ไขปัญหาได้คือให้ท่านนำรถเข้า ศูนย์บริการและอะไหล่ ที่ใกล้บ้านท่านมากที่สุดครับ

     ซึ่ง 3 ข้ออาจเป็นปัญหาเบื้องต้นที่ท่านเองก็สามารถตรวจเช็กรถของท่านได้ก่อนการใช้งานน่ะครับ แต่อย่างไรก็ดีหากเกิดปัญหาที่เป็นดัง 3 ข้อแรกหรือปัญหาที่ทำให้เครื่องยนต์ของท่านทำงานผิดปกติแล้วนั่น ท่านควรที่จะนำรถยนต์ของท่านให้ ช่างผู้ชำนาญการ หรือให้ท่านนำรถของท่านเข้ารับการบริการที่ ศูนย์บริการและอะไหล่ ที่ใกล้บ้านท่านมากที่สุดเพื่อทำการแก้ไขปัญหา การสตาร์ทรถยนต์ไม่ติด เพื่อที่จะได้รักษาอายุการใช้งานของรถยนต์ของท่านให้อยู่กับท่านได้ยาวนานที่สุดครับ